เทคนิควัด Size รองเท้า เพื่อให้พอดีกับรองเท้าคู่โปรด

เทคนิควัด Size รองเท้า

ทุกครั้งที่ก้าวออกจากบ้าน แน่นอนว่าสิ่งที่ขาดไม่ได้คือรองเท้า เพราะช่วยห่อหุ้มเท้าเพื่อป้องกันการเกิดบาดแผล การกระแทก รวมถึงอาการเจ็บต่าง ๆ โดยการเลือกรองเท้าควรเลือกขนาดที่พอดี ไม่คับจนทำให้เกิดอาการบาดเจ็บและไม่หลวมจนทำให้เดินไม่ถนัด และเมื่อรองเท้ามีส่วนสำคัญที่ทำให้ทั้งคุณผู้หญิงและคุณผู้ชายก้าวเดินอย่างมั่นใจ เราจึงมีเทคนิคดี ๆ ในการวัด Size รองเท้า ให้พอดี เพื่อการสวมใส่รองเท้าคู่โปรดได้อย่างถูกใจ

ก่อนตัดสินใจซื้อรองเท้า เชื่อว่าทุกคนต้องลองสวมใส่ก่อน เพราะรองเท้าแต่ละดีไซน์แต่ละประเทศมาจากมาตรฐานการผลิตที่แตกต่างกัน โดยก่อนการลองรองเท้า ทุกคนควรทราบขนาดเท้าของตัวเอง เพื่อประหยัดเวลาและได้ทดลองสวมใส่ขนาดที่ใกล้เคียงกับเท้ามากที่สุด โดยมีเทคนิควัดขนาดเท้าและการเทียบขนาดมาตรฐานของแต่ละประเทศ ดังนี้

วิธีวัดขนาดเท้าให้พอดี

1. วางเท้าลงบนกระดาษเปล่า โดยเท้าต้องตั้งฉากเหมือนเวลายืน แนะนำให้นั่งวัดเพื่อความสะดวก

2. ขีดเส้นบริเวณส้นเท้าและปลายนิ้วเท้าที่ยาวที่สุด โดยเวลาขีดเส้นดินสอควรตั้งฉาก เพราะอาจทำให้ขนาดคลาดเคลื่อนได้

3. หาความยาวเท้าโดยการวัดระยะห่างของเส้นทั้ง 2 เส้น และนำไปเทียบไซส์รองเท้า เพื่อหาขนาดที่ใช่สำหรับเท้าคุณ

สำหรับการวัดขนาดรองเท้าให้ได้ขนาดที่เป๊ะที่สุด แนะนำให้วัดช่วงเย็น เพราะเป็นช่วงเวลาที่เท้าขยาย นอกจากนี้ หากเป็นคนหน้าเท้ากว้างหรือเท้าอูม ควรบวกเพิ่มอีก 1 ไซส์ ที่สำคัญควรพิจารณารูปทรงรองเท้าประกอบด้วย โดยเฉพาะผู้หญิง ซึ่งหากเป็นรองเท้าผ้าใบผู้หญิงอาจไม่น่ากังวลนัก แต่หากเป็นรองเท้าส้นสูงควรพิจารณาดีไซน์เป็นสำคัญ เพราะบางดีไซน์หน้าแคบแต่บางดีไซน์หน้ากว้าง เป็นต้น

เทียบ Size รองเท้า ตามรูปแบบไซส์ของประเทศต่าง ๆ

เมื่อได้ขนาดรองเท้าแล้วก็ได้เวลาหาไซส์ที่ใช่ เพราะไซส์มาตรฐานที่ทั่วโลกใช้ไม่เหมือนกัน เช่น ขนาด 40 ของ EU เทียบเท่ากับไซส์รองเท้า us ขนาด 9.5 นั่นเอง โดยรูปแบบไซส์ที่เป็นที่นิยมนั้นมีอยู่ด้วยกัน 4 แบบ ได้แก่ UK, US, EU และ JPN ซึ่งแต่ละแบบมีความแตกต่างกันดังนี้

1. UK (English Linear Measure)

ดูจากชื่อน่าจะพอเดาได้ว่าเป็นรูปแบบไซส์ที่มาจากประเทศอังกฤษ โดยเป็นรูปแบบไซส์ที่เก่าแก่ที่สุด และมักนิยมใช้ในประเทศอังกฤษ

2. US (American Linear Measure)

รูปแบบไซส์ที่นิยมใช้ในสหรัฐอเมริกาและแคนาดา โดยมีการคำนวณระบบไซส์มาจากอังกฤษทำให้ตัวเลขไซส์รองเท้าของ US และ UK มีความใกล้เคียงกัน

3. EU (European Sizing)

เป็นรูปแบบไซส์ที่ริเริ่มโดยประเทศฝรั่งเศสและเป็นรูปแบบที่ได้รับความนิยมในหลายประเทศโดยเฉพาะประเทศในแถบยุโรป

4. JPN (Japanese Linear Measure)

ญี่ปุ่นเป็นประเทศแรกที่นำรูปแบบนี้มาใช้ จุดเด่นคือการคำนวณได้อย่างง่าย ๆ เพราะหน่วยเป็นเซนติเมตร ทำให้เวลาเลือกไซส์ไม่เกิดความสับสน แต่ข้อเสียคือไม่เป็นที่นิยมและมักเห็นรูปแบบไซส์นี้เฉพาะในประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น

สำหรับประเทศไทยนิยมวัดไซส์แบบ EU จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เวลาลองรองเท้าแล้วได้ยินคนไทยบอกไซส์เป็นตัวเลขสองหลัก เช่น เบอร์ 40 เบอร์ 38 เป็นต้น แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ใช่ทุกแบรนด์ในประเทศไทยที่เลือกใช้รูปแบบ EU ดังนั้น ก่อนการซื้อรองเท้าโดยเฉพาะการซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ ควรพิจารณาไซส์ของแบรนด์นั้น ๆ ให้ถี่ถ้วน เพื่อไม่ให้ซื้อผิดขนาด

การเทียบไซส์รองเท้านับเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ไม่ว่าจะเป็นการเลือกซื้อรองเท้าวิ่ง คัทชู ส้นสูง ฯลฯ เพราะการเลือกขนาดที่สวมใส่ได้อย่างพอดีจะช่วยให้ทุกก้าวเดินราบรื่น จะท่วงท่าไหนก็ไม่มีสะดุด อีกทั้งยังไม่ทำให้เกิดผลข้างเคียง เช่น อาการบาดเจ็บจากการเลือกขนาดรองเท้าที่ไม่พอดีหรือเกิดตุ่มพองแดงเมื่อเลือกใส่คู่ที่คับจนเกินไป ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วแต่ส่งผลเสียต่อสุขภาพเท้าทั้งสิ้น ทำให้บางแบรนด์ได้นำระบบคอมพิวเตอร์มาใช้เพื่อการคำนวณขนาดที่แม่นยำยิ่งขึ้น และสำหรับใครที่กำลังวางแผนซื้อคู่ต่อไป อย่าลืมนำเทคนิคดี ๆ เหล่านี้ไปใช้ เพื่อการเป็นเจ้าของรองเท้าที่กระชับพอดีและก้าวเดินได้อย่างมั่นใจ

อยู่บ้านและช้อปอย่างสบายใจไปด้วยกันกับ #ShopeeFromHome Month ช้อปสินค้าอุปโภคบริโภค ของใช้ในบ้าน อาหาร น้ำดื่ม อาหารกระป๋อง อาหารแช่แข็ง และอุปกรณ์จำเป็นในชีวิตประจำวันลดราคาถูกสุดๆ ช้อปแค่ 0 บาทก็ส่งฟรีถึงบ้าน! พร้อมรับ Coin Cashback ปังๆ 20% ทุกวัน ตั้งแต่วันที่ 6 – 29 เมษายนนี้!